บริจาค

เห็นว่า..บล็อกนี้ดี มีประโยชน์... โปรดสนับสนุนผู้ทำบล็อกได้ที่ พร้อมเพย์ 083-4616989
หรือบัญชี 002-1-70462-8 กสิกรไทย สาขาบางลำภู

ขันธ์ 5 กับความโง่ของพุทธเชิงวิชาการ




วันนี้ มาวิพากษ์วิจารณ์ความโง่ในระดับมากถึงมากที่สุดของพุทธเชิงวิชาการในสังคมไทยกัน ใครที่อ่านแล้ว ความโง่จะลดลงไปเยอะ

ขอเอากระทู้ชื่อ “ขันธ์5 ขอความรู้หน่อยค่ะ” เป็นการเกริ่นนำในการเขียนบทความ  กระทู้ที่ว่า มีเนื้อหาดังนี้

ขันธ์ 5 คือ รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ ยังไม่ค่อยเข้าใจคำว่า รูป กับสังขารค่ะ. แตกต่างกันยังไง. ผู้รู้ช่วยอธิบายหน่อยค่ะ

กระทู้นี้ เป็นหลักฐานให้เห็นถึงความสมองหมา ปัญญาควายของคนในห้องศาสนา พันธุ์ทิพย์ได้เป็นอย่างดี 

นี่หมายถึงทั้งคนตั้งกระทู้ คนที่แสดงความคิดเห็น รวมถึงคนอ่านส่วนใหญ่ด้วย

กระทู้นี้ คนอ่านงงกับคำว่า “รูป” กับ “สังขาร” ว่ามันแตกต่างกันยังไง เพราะ ทั้ง 2 คำดังกล่าว แปลว่า “ร่างกาย” ได้ทั้งคู่ 

ในเมื่อ แปลว่า “ร่างกาย” ได้ทั้ง 2 คำ  “สังขาร/ร่างกาย” จะเป็นส่วนหนึ่งของ “รูป/ร่างกาย” ได้ยังไงอีก 

เมื่ออ่านเฉพาะกระทู้ ก็ดูดี  คนตั้งกระทู้ก็มีเหตุผลอันชอบธรรมที่จะสงสัยได้  แต่บรรดาความคิดเห็นทั้งหมด มันมีแต่ความคิดเห็นที่สมองหมา ปัญญาควายทั้งสิ้น

อ่านแล้วก็ไม่ได้รู้อะไรเพิ่มขึ้น คนตั้งกระทู้ดันไปเลือกความคิดเห็นหนึ่งเป็นความคิดเห็นดีเด่น 

ความคิดเห็นดีเด่นดังกล่าว มันไม่ตอบคำถามเลย และไม่ถูกต้องด้วย คนให้ความคิดเห็นมันก็เป็น “ควาย” ตัวหนึ่งในคอกควายในพันธุ์ทิพย์ของผม  ใครสนใจก็ไปอ่านเอาเอง

คำตอบเฉพาะคำถามของกระทู้นี้ก็คือ  คำๆ หนึ่งนั้น มีหลายความหมาย  ลองไปเปิดพจนานุกรมดูก็เข้าใจแล้ว

ยิ่งเป็นคำยืมจากภาษาบาลี-สันสกฤตด้วยแล้ว  ความหมายยิ่งสับสนเข้าไปอีก

กล่าวคือ ความหมายเดิมในพระไตรปิฎกเป็นความหมายหนึ่ง  ความหมายใหม่ในภาษาไทยเป็นอีกความหมายหนึ่ง  และความหมายใหม่ในภาษาไทยนั้น ก็ไม่ได้มีความหมายเดียว

คำว่า “สังขาร” ในขันธ์ 5 นั้น แปลว่า “คิด”  ตรงนี้ไม่ได้แปลว่า “ร่างกาย”  ขอให้ดูภาพผู้หญิงด้านบนประกอบ

ต่อไปมาดูความสมองหมา ปัญญาควายของพุทธเชิงวิชาการกัน  เอาความคิดเห็นของควายในพันธุ์ทิพย์ที่ว่าเป็นตัวอย่าง

เคยตอบไว้เมื่อนานมาแล้ว ไม่เป๊ะ แต่พอจะใช้เทียบเคียง  เอาแบบเบสิคก่อนแล้วกัน

รูปนาม คือ ร่างกายจิตใจ รวมเรียกว่า ขันธ์ทั้ง5 แบ่งเป็นรูป 1 นาม 4
1 รูป คือตัวร่างกายทั้งหมด
นามมี 4 อย่างคือ
2 เวทนา คือ ความรู้สึกตอนมีสิ่งมากระทบ
3 สัญญา คือ ความจำได้หมายรู้
4 สังขาร คือ ความปรุงแต่ง
5 วิญญาณ คือ ตัวที่มารู้
งงใช่ไหมครับ

ข้อเขียนนี้ เป็นข้อเขียนดูถูกคนอ่านเป็นอย่างมาก มันเป็นการดูถูกเหยียดหยามที่น่ารังเกียจมาก มันคิดว่า คนอ่านมีระดับมันสมองไม่ฉลาดเท่ากับควายอย่างมัน

ผมจะเปรียบเทียบกับข้อเขียนของผมก็แล้วกัน  

เวลาผมจะด่าใคร ผมก็ด่าเอาตรงๆ ว่า “มึงมันโง่แบบสมองหมา ปัญญาควาย” แต่ผมจะไม่ “ยกตนข่มท่าน” อย่างข้อเขียนข้างต้น

ข้อเขียนของไอ้ควายตัวนี้ มันเป็นข้อความที่คิดว่า คนอ่านมีความรู้น้อยแบบโง่กว่าตัวมันเอง มันไม่ได้มาต้องการให้ความรู้คนอ่าน  มันต้องการเอาสำเร็จความใคร่ในกิเลสของมันเท่านั้น

ผมจะด่าใครด้วยคำศัพท์ในระดับไหนก็ตาม  ผมมีเจตนาที่จะให้ความรู้กับคนอ่าน  ถ้ามึงอ่านแล้วเข้าใจ มึงก็หายโง่  คำด่าก็หมดความหมายไปโดยอัตโนมัติ

ไอ้ควายตัวนี้ นอกจากจะ “ยกตนข่มท่าน” มันก็ยังมั่วอีกด้วย  ขอให้ดูความหมายของ ขันธ์ 5 จากวิกิพีเดีย ด้านล่าง

ขันธ์ แปลว่า กอง, หมวด, หมู่, ส่วน ในทางพุทธศาสนาหมายถึงร่างกายของมนุษย์ คือแยกร่างกายออกเป็นส่วนๆ ตามสภาพได้ 5 ส่วน หรือ 5 ขันธ์ คือ

รูป ได้แก่ ส่วนที่ผสมกันของธาตุดิน น้ำ ลม ไฟ เช่น ผม หนัง กระดูก โลหิต
เวทนา ได้แก่ ระบบประมวลความรู้สึกว่า ชอบหรือไม่ชอบ และเฉยๆ
สัญญา ได้แก่ จำสิ่งที่ได้รับและรู้สึกนั้นๆ
สังขาร ได้แก่ ระบบคิดปรุงแต่ง แยกแยะสิ่งที่รับรู้สึกและจำได้นั้นๆ
วิญญาณ ได้แก่ ระบบรู้สิ่งนั้นๆ ทางตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ

ขอให้พิจารณาคำศัพท์ของ “เวทนา” เป็นกรณีพิเศษ  ขอให้ท่านผู้อ่านลองคิดดูซิว่า มันสอดคล้องกับ “สัญญา สังขาร วิญญาณ” หรือไม่

เพื่อให้เข้าใจกันง่ายๆ มากขึ้น ขอเปรียบเทียบกับคำสอนของหลวงพ่อวัดปากน้ำเลย ดังนี้

เวทนา ได้แก่ เห็น
สัญญา ได้แก่ จำ
สังขาร ได้แก่ คิด
วิญญาณ ได้แก่ รู้

ท่านผู้อ่านลองคิดดูว่า “เวทนา” ควรจะแปลเป็นภาษาไทยว่า “ระบบประมวลความรู้สึกว่า ชอบหรือไม่ชอบ และเฉยๆ” หรือ “เห็น

การแปล “เวทนา” เป็น “เห็น” นั้น สอดคล้องกับ จำ คิด รู้ ได้เป็นอย่างดี 

การที่พุทธเชิงวิชาการแปล “เวทนา” เป็นภาษาไทยว่า “ระบบประมวลความรู้สึกว่า ชอบหรือไม่ชอบ และเฉยๆ” จึงแสดงให้เห็นถึงความเป็นสมองหมา ปัญญาควายของบุคคลกลุ่มนี้ได้เป็นอย่างดี

ประเด็นสำคัญอย่างยิ่งก็คือ มันแสดงให้เห็นว่า พุทธเชิงวิชาการ ไม่ได้ “รู้” และ “เข้าใจ” ศาสนาพุทธกันเลย  เพราะ เรื่องง่ายอย่างนี้ มันยังจำกันมาผิดๆ  เรื่องลึกๆ ระดับกิเลส อนุสัย พวกนี้จะเข้าใจได้อย่างไร

ที่นี้มาตีความกันต่อ เพราะ ยังไม่มีใครในสายวิชาธรรมกายจะวิเคราะห์อย่างที่ผมจะเขียนไปนี้มาก่อน

อายตนะภายในนั้น ไม่ได้มี “ตา” อย่างเดียว  ยังมี หู จมูก ลิ้น กาย ใจ อีก กล่าวคือ นอกจากเห็นแล้วยังมี ได้ยิน ได้กลิ่น รับรส รับสัมผัส รับอารมณ์ อีกด้วย

ทำไม หลวงพ่อวัดปากน้ำไม่กล่าวถึง ได้ยิน ได้กลิ่น รับรส รับสัมผัส รับอารมณ์

ตรงนี้มีคำอธิบายอย่างนี้

ในทางวิชาธรรมกายนั้น  เป็นการศึกษาที่เน้นไปที่ส่วนละเอียดสุด ตรงสุด ไม่อ้อม ไม่วกวน ในการศึกษาระดับนั้น  จะใช้การเห็นกับการรู้เป็นหลัก  ซึ่งตรงกับภาษาบาลีว่า “ญาณทัสสนะ”

ขอยกตัวอย่างการปฏิบัติธรรมในหัวข้อกายในกาย ของสติปัฏฐานสูตร 

ขณะที่สายยุบหนอพองหนอ เดินไปเดินมาจนระยะทางเท่าเส้นรอบโลก ก็ยังไม่เข้าใจว่า กายในกายเป็นอย่างไร  วิชา 18 กายซึ่งเป็นวิชาระดับอนุบาลของวิชาธรรมกายก็สามารถเข้าใจได้ดีในระดับหนึ่งแล้ว

ดังนั้น วิชาธรรมกายที่เน้นการศึกษาไปที่กายละเอียดต่างๆ ซึ่งในระดับมีเพียง “เห็น” กับ “รู้” เท่านั้น  ได้ยิน ได้กลิ่น รับรส รับสัมผัส รับอารมณ์  จึงไม่มีความสำคัญ

ขันธ์ 5 ในระดับของกายเนื้อ  เวทนาซึ่งหมายความถึง เห็น ได้ยิน ได้กลิ่น รับรส รับสัมผัส รับอารมณ์

โดยสรุป

ขันธ์ 5 ซึ่งเป็นเรื่องง่ายๆ พุทธเชิงวิชาการของไทยยังไม่รู้ ไม่เข้าใจ  คนที่ศึกษาอยู่ก่อน เข้าใจผิดไว้อย่างไร  พวกนี้ก็จำมาผิดๆ อย่างนั้น

ขันธ์ 5 คือ รูป + นาม [เห็น-จำ-คิด-รู้]  พุทธเชิงวิชาการก็จำแบบผิดๆ กันมาว่า ขันธ์ 5 คือ รูป + นาม [ระบบประมวลความรู้สึกว่า ชอบหรือไม่ชอบ และเฉยๆ-จำ-คิด-รู้]  

ที่เป็นความโง่บวกกับกรรมอันหนักหนาสาหัสก็คือ หลวงพ่อวัดปากน้ำมาสอนความถูกต้องตรงเผงให้รู้ให้เข้าใจ  ทะลึ่งมาโจมตีคำสอนของหลวงพ่อวัดปากน้ำเสียอีก

ความโง่ดังกล่าว จึงสร้างกรรมอันหนักหนาสาหัสให้กับพุทธเชิงวิชาการ และส่งผลให้พุทธเชิงวิชาการลงนรกกันเป็นส่วนใหญ่






1 ความคิดเห็น:

  1. MGM Resorts and BetMGM Partner in Live! Casino in
    MGM Resorts International will 용인 출장샵 use BetMGM 화성 출장마사지 Sportsbook in 안양 출장안마 Maryland, West Virginia and New Jersey 통영 출장안마 as the live 창원 출장안마 betting options for MGM Grand

    ตอบลบ