บริจาค

เห็นว่า..บล็อกนี้ดี มีประโยชน์... โปรดสนับสนุนผู้ทำบล็อกได้ที่ พร้อมเพย์ 083-4616989
หรือบัญชี 002-1-70462-8 กสิกรไทย สาขาบางลำภู

อ่านตรงนี้ก่อน


บทความในบล็อกนี้ ผมจะวิพากษ์วิจารณ์คำสอนของนักปริยัติ/พุทธวิชาการว่า บกพร่องอย่างไร โดยจะเปรียบเทียบกับการปฏิบัติธรรม

การปฏิบัติธรรมมีหลายสาย ผมเองมีความถนัดในบางสาย และเชี่ยวชาญมากในสาย “วิชาธรรมกาย”  จึงจะยกตัวอย่างเปรียบเทียบกับวิชาธรรมกายมากกว่าสายอื่นๆ

เหตุผลที่ต้องนำคำสอนหรือผลงานของนักปริยัติมาชำแหละก็เป็นเพราะว่า นักปริยัติ/พุทธวิชาการหันหลังให้กับคำสอนของพระพุทธเจ้า

นักปริยัติ/พุทธวิชาการพวกนี้ ไม่เชื่อว่าพระพุทธองค์ทรงตรัสรู้อริยสัจ 4  เมื่อปรินิพพานแล้วไปอยู่ในอายตนะนิพพาน

บุคคลกลุ่มนี้ เชื่อว่าพระพุทธองค์เป็นนักคิดหรือนักปรัชญาคนหนึ่งเท่านั้น  บุญ-บาป, นรก-สวรรค์ไม่มีจริง เป็นเพียงกุศโลบายที่ต้องการให้คนทำความดีเท่านั้น

บุคคลกลุ่มนี้ ละทิ้งศีลธรรมของศาสนา แต่ไปนำ “จริยธรรม” (Ethic) กับ “คุณธรรม” (Moral) เข้ามาแทน

คำสอนของพุทธวิชาการ/นักปริยัติจึงทำลายนรก-สวรรค์ลงไป เพื่อเปิดทางให้จริยธรรมกับคุณธรรมมาแทน

ปัจจุบันนี้เป็นที่ประจักษ์ชัดแล้วว่า จริยธรรมกับคุณธรรมที่เข้ามากับปรัชญาตะวันตกนั้น ไม่เหมาะสมกับคนไทย มาตรฐานศีลธรรมของคนไทยแตกต่างจากชาวตะวันตก

กลุ่มบุคคลเหล่านี้ ไม่สามารถทำให้คนไทยมีจริยธรรมกับคุณธรรมตามที่พวกเขาต้องการได้ บุคคลเหล่านั้น ไม่ได้โทษตัวเองว่า กระทำความผิดอย่างมหันต์ต่อประเทศชาติ แต่ไปโทษสังคมทุนนิยมให้เป็นแพะรับบาป

เมื่อทำลาย “ศีลธรรม” ลงไปแล้ว  จริยธรรมกับคุณธรรมจากซีกโลกตะวันตกก็มาแทนไม่ได้  ประชาชนคนไทยยุคนี้ จึงขาดสำนึกในการทำความดีโดยสิ้นเชิง

เข้ายุคมือใครยาวสาวได้สาวเอา นักการเมืองโกงกิน ข้าราชการคอร์รัปชั่น ลูกหลานไม่เชื่อฟังพ่อแม่ครูบาอาจารย์

สังคมไทยเข้าสู่ “วิกฤติ” ทางศีลธรรม ก็เพราะนักปริยัติ/พุทธวิชาการที่สอนผิดๆ กลุ่มนี้

ถึงเวลาแล้วที่สังคมไทยควรตระหนักถึงความผิดพลาดของนักปริยัติ หันกลับมาสู่ “การปฏิบัติธรรม” เพื่อที่จะไม่ให้สังคมไทยตกต่ำไปกว่านี้

********************************

Dr. Manas Komoltha  (Ph.D. Integrated Sciences)
Faculty of Sciences and Liberal Arts
Rajamangala University of Technology Isan